วันอังคารที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2559

บ้านตะวันออก

บ้านตะวันออก

          
          บ้านตะวันออกเป็นอีกหนึ่งบ้านตัวอย่าง ที่เป็นสถาปัตยกรรมเขตร้อนชื้นที่ควรค่าแก่การศึกษา
บ้านตะวันออกสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2544 บนพื้นที่ขนาด 1 ไร่ มีพื้นที่ใช้สอย 1,000 ตารางเมตร นอกจากนี้ผู้ออกแบบยังเป็นผู้ใช้งาน หรือเจ้าของบ้าน ซึ่งก็คืออาจารย์ย้ง ดังนั้น บ้านหลังนี้จึงถูกออกแบบมาได้อย่างเข้าใจผู้อาศัย เข้าใจธรรมชาติ

          เข้าใจธรรมชาติอย่างไร? บ้านตะวันออกถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ โดยที่นำเอาหลักของสถาปัตยกรรมไทยมาใช้ในเรื่องของโครงสร้างด้วยระบบเปลือย ทำให้แม้จะเป็นเหล็ก คอนกรีต และไม้ แต่ก็เห็นเนื้อแท้ของบ้านได้อย่างหมดจด

     จากรูปจะเห็นได้ว่า บ้านค่อนข้างมีขนาดใหญ่ ทั้งๆที่มี 2 ชั้น แต่กลับมีความร่มรื่น น่าอยู่ เนื่องจากตัวบ้านนั้นถูกกลืนไปกับธรรมชาติ อย่างต้นจามจุรีที่ตั้งอยู่ตรงกลางสวน ที่เป็นเช่นนี้เพราะ วัสดุที่ใช้ในการทำผนังอย่างกระจกใส ด้วยคุณสมบัติของวัสดุนี้ ทำให้บ้านมีความโปร่งโล่ง ในขณะที่ไม่ได้รู้สึกถึงความไม่เป็นส่วนตัวเพราะเงาจากภายนอกที่สะท้อนบนกระจก และแสงภายนอกที่สว่างกว่า ช่วยทำให้มองเข้าไปภายในได้ยากขึ้น


          จากการที่ได้เข้าไปสัมผัสภายในและภายนอกบ้าน สังเกต และสรุปความรู้จากอาจารย์ย้ง สามารถแยกประเด็นต่างๆของบ้านออกมาได้ และประเด็นที่สนใจคือเรื่องของ Transition ในส่วนต่างๆของบ้าน

วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2559

การรับรู้

การรับรู้ในบริเวณต่างๆ




ในการทำงาน อาจเริ่มจากการเข้าไปอยู่ในที่ที่นั้น แล้วลองดูว่าในช่วงเวลาสั้นๆ เราได้รับรู้ถึงอะไรบ้าง ลองสังเกต สิ่งรอบตัว แล้วบันทึกออกมา



    


๑. วงเวียนให้ความรู้สึกว่าเป็นหน้าบ้านมากกว่า ทางที่จะมองเข้าไปเห็นโรงช้าง (มุมมองผู้ใช้รถ)





๒. ต้นไม้ที่อยู่ข้างที่จอดรถ ช่วยบังอาคารและบังบึง
ทำให้บึงที่มีความสวยงามมีความเป็น Private
คนที่ (เดิน) เข้ามาภายในถึงจะได้เห็นความงามนี้




๓. ต้นไม้ที่ค้อมลงมาทำให้สะพานไม้ (ทางเดินรอบบึง) ร่ม/น่าเดิน
+ รูปทรงซุ้มประตู ทำให้รู้สึกน่าใช้งาน




๔. ทางเดินรอบบึงทำให้สามารถมองเห็นทัศนียภาพได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ขาดตอน
ต้นไม้ที่ขึ้นปกคลุมรอบบึงช่วยบังกิจกรรมที่อยู่ด้านใน - ความเป็น Private
และทำให้อาคารต่างๆดูเป็นธรรมชาติ (+ รูปแบบอาคารมีความกลมกลืนกับธรรมชาติ)






๕. รั้วไม้ของสะพานไม้ (ทางเดินริมบึง) และสะพานไม้ทางเข้าอนุบาล
เมื่อมองในระดับสายตาของเด็กอนุบาล บางครั้งเป็นการบังมุมมอง (+ความซุกซน)
ทำให้ต้องปีนเพื่อมองทัศนียภาพ




๖. ลานปูน + ดิน ระหว่างรอยต่อโรงช้าง และรับอรุณ ส่วนที่ไม่ชายคาบัง
พื้นน่าจะเป็นวัสดุเดียวกันไปเลย (ดิน หรือ ปูน)





๗. และ ๘. คุณภาพของแสงเมื่อมองจากใต้รับอรุณ




๙. ลานบริเวณตึกมัธยมกว้าง มีต้นไม้เยอะ แต่โปร่ง
ส่งผลให้มีแดด และลมเข้าอย่างทั่วถึง (เมื่อลองยืนอยู่ในบริเวณนั้น)




๑๐. ลานบริเวณเรือนศิลปะมีต้นไม้เยอะ แต่หนา
ส่งผลให้มีแดด และลมเข้าน้อย (เมื่อลองยืนอยู่ในบริเวณนั้น)




๑๑. ทางเดินริมบึงช่วงตึกมัธยมบางช่วงจะไม่มีรั้วไม้กันตก
ระยะจากอาคาร - ทางเดิน (บางช่วงเป็นเนินดิน) - บึง ค่อนข้างกว้าง



วันจันทร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2559

Show & Share

       Show & Share

      ในกิจกรรม Show & Share ที่ให้ทุกคนมาเล่าว่าที่ผ่านมาได้ทำอะไรไปบ้าง เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ที่สำคัญ เพราะนอกจากจะได้ข้อคิดใหม่ๆ ที่แต่ละคนใช้ในการทำงาน ตัวงานเองยังมีประเด็นที่น่าสนใจ สำคัญ และสามารถนำไปเก็บไว้ในลิ้นชักความรู้ของตน และรอวันที่จะนำออกมาใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยผ่านกระบวนการมากมายเพื่อที่จะกลั่นกรอง และเรียบเรียง